เห็บตัวนิดเดียว แต่สร้างปัญหาใหญ่กว่าที่คิด
ทั้งคัน ทั้งรำคาญ ทั้งดูดเลือด และที่แย่สุดคือ พาโรคร้ายมาสู่หมาที่คุณรัก
แถมยังว่องไวซ่อนเก่ง หลบได้ทั้งในขน ใต้พรม หลังโซฟา เรียกว่าพลาดนิดเดียว...บุกยึดบ้านเลยครับ
วันนี้ผมจะพาคุณไปรู้จักกับ 5 เทคนิคกำจัดเห็บหมัดแบบมือโปร
พร้อมวิธีป้องกันโรคพยาธิเม็ดเลือด ที่เป็นภัยเงียบของหมาไทยแทบทุกตัว
เพราะถ้าคุณเป็นทาสหมา...ต้องรู้ทันศัตรูตัวจิ๋วพวกนี้ให้ได้ก่อนมันจะเริ่มแพร่พันธุ์
หลายคนลูบน้องแล้วไม่เจอเห็บ = คิดว่าไม่มี
แต่จริงๆ เห็บชอบซ่อนในซอกลึก เช่น โคนหู โคนหาง ขาหนีบ ใต้รักแร้ หรือแม้แต่ตามซอกนิ้ว
ข้อมูลจาก Cornell University College of Veterinary Medicine:
เห็บสามารถดูดเลือดได้วันละเกือบ 100 เท่าของน้ำหนักตัวมันเอง และชอบซ่อนในอุณหภูมิอุ่นชื้น
เคล็ดลับ:
ใช้หวีซี่ถี่หวีขนช่วงหลังเดินเล่นเสร็จทุกวัน
ถ้าเจอตัวเห็บ ให้จับด้วยแหนบเฉพาะแล้วหมุนเบาๆ ไม่ดึงตรง เพราะหัวอาจขาดคาผิวหนัง
หลายคนคิดว่า “เห็บหายแล้ว ไม่ต้องหยดก็ได้” = ความเข้าใจผิดสุดๆ
เพราะวงจรชีวิตของเห็บนั้นยาวถึง 90 วัน และไข่ที่ตกในบ้านอาจฟักได้อีกเรื่อยๆ
คำแนะนำจาก ASPCA:
ควรใช้ยาหยดหลังคอทุกเดือนอย่างต่อเนื่อง
หรือใช้ยาเม็ดกินเดือนละครั้งในหมาที่มีแนวโน้มเล่นกับหมาตัวอื่นหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยง
ข้อควรรู้:
อย่าฉีดสเปรย์เห็บของแมวให้หมา หรือใช้แบบเด็กกับหมาโต เพราะขนาดยามีผลต่อความปลอดภัย
บ้านที่มีหมาต้องหมั่นดูแลที่นอน พรม เบาะ โซฟา และมุมมืดให้แห้ง สะอาด
เพราะนั่นแหละคือแหล่งไข่เห็บและตัวอ่อนแบบชั้นดี
ข้อมูลจาก CDC (Centers for Disease Control):
เห็บตัวเมียสามารถวางไข่ได้ครั้งละกว่า 3,000 ฟอง ซึ่งฟักตัวได้แม้อยู่ในร่ม ไม่มีหมาให้ดูดเลือด
เทคนิคเสริม:
ซักที่นอนหมาด้วยน้ำร้อนสัปดาห์ละครั้ง
ใช้น้ำยาฆ่าเห็บหมัดที่ปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยงฉีดพื้นห้องและใต้เฟอร์นิเจอร์
ตัดหญ้าในสวนไม่ให้รก ลดโอกาสเห็บซ่อนตัว
หมาที่ติดเห็บจะเริ่มเกาแรงๆ บริเวณหลังหู ข้างคอ หรือโคนหาง
บางตัวเลียจุดเดิมจนขนร่วง ผิวลอก หรือเป็นแผล
หากไม่รีบรักษา อาจลามไปถึงการติดเชื้อผิวหนังหรือโรคเลือด
ข้อมูลจากโรงพยาบาลสัตว์จุฬาฯ:
พบว่า กว่า 50% ของเคสพยาธิเม็ดเลือดมาจากเห็บกัดเพียงครั้งเดียว
คำแนะนำ:
ถ้าน้องเริ่มซึม กินน้อย ขนหยาบ หรือเหงือกซีด ควรรีบพาไปตรวจเลือดทันที
พยาธิเม็ดเลือดคือภัยเงียบจากเห็บที่ทำให้หมา ซึม อ่อนแรง เลือดกำเดาไหล เหงือกซีด และอาจเสียชีวิตได้
การรักษาโรคนี้ใช้เวลาหลายเดือน และบางตัวกลับมาเป็นซ้ำ
เทคนิคป้องกันที่ดีที่สุด:
หยดยาป้องกันเห็บเป็นประจำ
ตรวจเลือดปีละ 1–2 ครั้ง โดยเฉพาะหมาที่มีเห็บบ่อย
เสริมภูมิคุ้มกันด้วยอาหารสูตรเฉพาะและวิตามิน C (ปรึกษาหมอก่อนให้)
เห็บหมัดอาจดูเหมือนเรื่องเล็ก แต่ส่งผลใหญ่ทั้งสุขภาพหมา และความสบายใจของเจ้าของ
แค่คุณรู้ทันวงจรชีวิตของมัน ใช้ยาป้องกันอย่างสม่ำเสมอ ดูแลความสะอาดของบ้าน และสังเกตอาการหมาเป็นประจำ
คุณก็จะกำจัดศัตรูจิ๋วตัวนี้ได้แบบอยู่หมัด และให้น้องหมาใช้ชีวิตแบบขนฟูไร้คันได้เต็มที่ทุกวัน
“เห็บตัวเล็ก แต่พิษแรง
ถ้าคุณไม่แกร่ง มันจะยึดบ้าน
รักหมาให้ครบ ต้องไม่มีเห็บซักตัว
แล้วคุณจะเห็นหมาแฮปปี้ทั้งวัน”
#วิถีทาสหมา #กำจัดเห็บหมัด #หมาเกาไม่หยุด #พยาธิเม็ดเลือด #Lazadogรู้ใจหมา
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com